ท่านแรก
ชายวัยกลางคน อายุประมาณ 42 ปี เคยสูบบุหรี่ตอนหนุ่มๆ สูบวันละประมาณสิบกว่ามวนสูบมากกว่า 10 ปี แต่ตอนนี้เลิกสูบมากกว่า 6 ปีแล้ว สาเหตุเนื่องจากเคยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างหนัก จนต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนาน 2 อาทิตย์ ซึ่งในระหว่างที่อยู่ในโรงพยาบาลนั้นก็ไม่สูบบุหรี่ พอออกจากโรงพยาบาลก็รู้สึกว่าไม่อยากกลับไปสูบบุหรี่อีก และยังบอกด้วยว่าตัวเองรู้สึกสุขภาพดีขึ้น หายใจสะดวกมากขึ้น หอบเหนื่อยจากการทำงานต่างๆน้อยลง
ท่านที่สอง
คุณลุงอายุ 57 ปี เล่าด้วยความภาคภูมิใจว่า คุณลุงสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ 14 ปี จนกระทั่งอายุ 47 ปี รวมเป็นเวลาที่คุณลงเคยสูบบุหรี่ทั้งสิ้น 33 ปี โดยสูบวันละ 2 ซอง แต่ปัจจุบันคุณลงสามารถเลิกสูบบุหรี่ได้แล้วเป็นเวลา 10 ปี ซึ่งแรงบันดาลใจที่ทำให้คุณลงคิดเลิกบุหรี่นั้นคุณลุงบอกว่า "แรงบันดาลใจจริงๆน่ะ ไม่มีหรอก ลุงอยากจะเลิกเอง ก็เพื่อสุขภาพของตัวเอง เพราะก็รู้อยู่แล้วว่าบุหรี่ทำให้สุขภาพแย่ลง" วิธีการเลิกบุหรี่ของคุณลุงคือการหักดิบ หลังจากที่เลิกสูบได้ 1 ปี คุณลงพบว่าตัวเองป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว และโรคเก๊า ซึ่งคุณลงพูดว่า "ดีนะ ที่ลุงเลิกได้ก่อน ไม่อย่างนั้นโรคที่ลุงโรคที่ลุงเป็นคงจะอาการหนักกว่านี้"
ท่านที่สาม
พี่ รปภ. อายุ 24 ปี เริ่มสูบมาตั้งแต่อายุ 13 ปี สูบหนักมาก วันละซอง แต่ปัจจุบันไม่ได้สูบแล้ว แต่จะสูบบุหรี่เมื่อพบปะสังสรรค์กับเพื่อน เหตุผลที่ไม่สูบ เนื่องจากหน้าที่การงานของตน เพราะเมื่อสูบแล้วทำให้ดูบุคลิกไม่ดีและรู้สึกว่าร่างกายเริ่มแย่ลง โดยสังเกตจากตอนออกกำลังกายที่เริ่มหายใจไม่ทันและเริ่มแน่นหน้าอก เลยคิดที่จะเลิกโดยวิธีหักดิบ แต่พี่ รปภ. บอกว่า "ที่ตนเองสูบตอนไปสังสรรค์เนื่องจากเพื่อนที่ไปสังสรรค์ด้วยสูบแล้วชวนตนสูบเลยต้องสูบด้วย" และที่สำคัญประทับใจกับการเลิกบุหรี่มาก คือ รู้สึกว่าตนเองหล่อขึ้น เนื่องจากหลังจากเลิกสูบหน้าตนเองใสขาว และร่างกายมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ทำให้บุคลิกภาพของตนดูดีขึ้นกว่าเดิม
ที่มา: นิสิตเภสัชศาสตร์. ควันหลง. คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร; 2557.